รายงานเรื่องผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง สิทธิทางเพศในวันที่ 28 พย.

เมื่อวานนี้ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน เราได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง สิทธิทางเพศ กับประชาชนใน 4 จุดทั่วกรุงเทพฯ คือ  สวนจตุจักร สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟหัวลำโพง และสยาม โดยมีกระบวนการสำรวจ 2 กระบวนการ คือ

  1. การแสดงความคิดเห็นบนกระดานสำรวจ
  2. การแสดงความคิดเห็น โดยใช้แบบสำรวจกระดาษ จำนวน 1,200 ชุด แบ่งเป็นจุดละ 300 ชุด

ประเด็นที่ใช้สำรวจความคิดเห็น มี 6 ประเด็น คือ

  1. เด็กควรได้เรียนรู้เรื่องเพศ
  2. เพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ใครๆก็มีได้
  3. คนเพศเดียวกันจดทะเบียนสมรสได้
  4. ผู้หญิงยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมได้
  5. งานบริการทางเพศเป็นอาชีพ
  6. ติดเชื้อเอชไอวีก็ท้องได้

คำถามที่ใช้ในการสำรวจคือ สิทธิทางเพศข้อใดที่ท่านคิดว่า มีความสำคัญมากที่สุด 3 ข้อ 

ผลการสำรวจเรื่องสิทธิทางเพศที่มีผู้ให้คะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ 
ลำดับที่ 1 เด็กควรได้เรียนรู้เรื่องเพศ   1,720 คะแนน
ลำดับที่ 2 เพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง ใคร ๆ ก็มีได้   1,009 คะแนน
ลำดับที่ 3 ผู้หญิง ยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมได้ 952 คะแนน

ข้อสังเกตเบื้องต้นที่ได้จากการสำรวจ

  1. ประชาชนผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิทางเพศของเด็กในการเรียนรู้เรื่องเพศ เพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง และการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมโดยมีคะแนนมาเป็นสามลำดับแรก

    ซึ่งอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า การทำงานเรื่องเอดส์ที่ผ่านมากว่า 20 ปี ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสำคัญในเรื่องทัศนคติของสังคม ในเรื่องการยอมรับเรื่องสิทธิของเด็กในการเรียนรู้เรื่องเพศ การยอมรับว่า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานเป็นเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมและเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เช่นเดียวกับเรื่องการยอมรับสิทธิของผู้หญิงที่จะยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมได้ 
    อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ 

    การทำงานผลักดันให้เกิดการจัดการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาให้มีคุณภาพและยั่งยืนยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และการจัดให้มีบริการการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในระบบบริการของรัฐ ยังไม่สามารถทำได้จริง

  2. เมื่อมองไปที่เรื่องอีก 3 เรื่องที่ได้รับความสำคัญน้อยกว่าคือเรื่อง คนเพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรสได้ งานบริการทางเพศเป็นอาชีพ และ ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีก็สามารถตั้งครรภ์ได้ 

    ซึ่งอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า สังคมยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิในด้านนี้น้อย จึงเป็นความท้าทายของคนทำงานที่จะต้องทำงานเรื่องนี้ต่อไป โดยอาจต้องมีการให้ข้อมูลเรื่อง มาตรการเรื่องการลดความเสี่ยงจากการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกเกิดใหม่ได้ ซึ่งจะทำให้ทารกที่เกิดมามีความปลอดภัย 
    สำหรับเรื่อง สิทธิของคนรักเพศเดียวกัน และผู้ที่ทำงานบริการทางเพศ ซึ่งเป็นข้อที่ผู้ตอบแบบสำรวจ ตั้งคำถามกลับมามากที่สุดก่อนที่จะตอบ ก็แสดงให้เห็นได้ว่า สังคมยังคงมีคำถาม มีข้อสงสัยและต้องการให้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องนี้ให้มากขึ้น เช่นกัน

Go to top